“กกล.สุรนารี โดย ฉก.ทพ.23 จัดกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ชายแดนไทย 🇹🇭– 🇰🇭กัมพูชา หมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน นำคณะกัมพูชาเยี่ยมชมโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเองและนำนักเรียนชมภาพยนตร์ที่ไทย”
( 29 พฤศจิกายน 2565) ที่วัดบ้านน้ำยืน ตำบลโซง อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พันโทครุชน บุญเพศ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 เป็นผู้แทน ผบ.ฉก.ทพ.23 จัดกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ตามโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน โดยมี พันเอกบุญเสริม บุญบำรุง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 เดินทางมาเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิทยา มูลน้อยสุ นายอำเภอน้ำยืน เป็นคณะตัวแทน(ประเทศไทย) และคณะตัวแทนจาก(ประเทศกัมพูชา)
นายโทง คึมเทง รองนายอำเภอจอมกระสาน นายควน บุญนัน หัวหน้าเกษตรอำเภอจอมกระสาน พร้อมคณะครูและนักเรียนโรงเรียนมัธยมฮุนเซนจอมกระสาน เข้าร่วมกิจกรรมรำบายศรีสู่ขวัญสองแผ่นดิน โดยมีการแสดงรำจากชาวบ้านน้ำยืน และพิธีพราหมณ์ บายศรีสู่ขวัญผูกแขนให้กับคณะเจ้าหน้าที่และชาวบ้านและนักเรียนจากสองประเทศ ไทย และกัมพูชา เพื่อเป็นศิริมงคล ก่อนร่วมกิจกรรมปล่อยปลาหมอเทศลงแหล่งน้ำ และนำคณะจากทั้งสองประเทศ เดินทางเข้าเยี่ยมชมแปลงเกษตรตัวอย่าง ของโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง”
ด้วยนโยบายของกองทัพบกให้หน่วยงานป้องกันชายแดน จัดกิจกรรมโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงตามแนวชายแดน ให้มีความเข้มแข็งและเป็นรูปธรรม และเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์อันดี ระหว่างประเทศ ไทย-กัมพูชา เพื่อเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชีวิต และขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรม ได้เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และให้พี่น้องประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ สามารถไปมาหาสู่กันได้อย่างปกติ ตลอดจนการช่วยเหลืองานทางราชการในการแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดนร่วมกัน
คณะของทั้งสองประเทศเข้าเยี่ยมชมแปลงเกษตรตัวอย่าง ของโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ของนางสุพิชฌาย์ พรมมี และนางเอ็ม มั่งมี ราษฏรบ้านน้ำยืน ตำบลโซง อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี โครงการฯตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้พระราชทานมอบเมล็ดพันธุ์ผัก แก่ราษฏรอำเภอน้ำยืนเมื่อสิงหาคม 2565 ผ่านมา โดยพันเอกภคพล มีทิพย์ ผบ.ฉก.ทพ.23 ให้กำลังพลของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหาพรานที่ 23 และเจ้าหน้าที่ เข้ามาช่วยดำเนินการปรับปรุงพื้นที่แก่ราษฏรอย่างต่อเนื่อง
ได้ทำการปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์ เช่น หอม, สลัด, กวางตุ้ง, ซุ้มไม้เลื้อย, ตะไคร้, พริก, มะละกอ กล้วย และบ่อดินเลี้ยงปลาดุก เลี้ยงกบ การเดินทางมาศึกษา เพื่อนำความรู้จากโครงการ “บ้านนี้รัก ปลูกผักกินเอง” ของไทย ส่งเสริมให้ประชาชนชาวกัมพูชาปลูกพืชผักในบ้านของตัวเอง ปลูกกินเองในครัวเรือน แล้วก็สามารถนำไปจำหน่ายสร้างรายได้เสริม เป็นการสร้างความสัมพันธ์และความเข้มแข็งของราษฏรหมู่บ้านคู่ขนานอย่างยั่งยืน
ในเวลาต่อมา ทางคณะครูและนักเรียนทั้ง สองประเทศ ได้เดินทางไปบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ น้ำยืน รับชมภาพยนตร์ เรื่อง “บัวผันฟันยับ” เพื่อสร้างการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆให้กับนักเรียนกัมพูชา และเพื่อเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชีวิตของประเทศไทย
ทั้งนี้ นักเรียนประเทศกัมพูชา กล่าวขอบคุณคณะผู้จัด, เจ้าหน้าที่ของประเทศไทย ที่พามาทัศนศึกษาเรียนรู้ ซึ่งที่บ้านของตน ไม่มี
**************
กรกช ภูมี สวท.อุบลฯ
รายงาน